บทความ

เขียนซีดีให้ได้ Over ถึง 850 MB

รูปภาพ
ปกติแล้วแผ่นซีดี 1 แผ่นจะเก็บข้อมูลได้สูงสุดไม่เกิน 700 MB แต่วันนี้นายเกาเหลาจะขอสร้างปาฏิหาริย์ ด้วยการเขียนข้อมูลให้ได้ความจุถึง 850 MB บอกก่อนนะครับว่าไม่ได้โม้ แต่ทำได้จริง ก่อนอื่น CD-Writer ของคุณจะต้องรองรับเขียนแผ่นแบบ Overburn หรือเขียนแบบ Oversize ได้ ซึ่งโดยส่วนมากแล้ว CD-Writer ในปัจจุบันก็สามารถใช้งานแบบนั้นได้อยู่แล้ว (นอกเสียจากว่า CD-Writer จะเป็นรุ่นเจ้าคุณทวด อันนี้ก็คงต้องบายทิปนี้ไป) คราวนี้ให้เปิดโปรแกรม Nero Express ไปเมนู Configure แล้วไปที่ TAB General จากนั้นมาที่รายการ Status bar ในหัวข้อ Yellow marker ใส่ตัวเลข 80 ส่วนช่อง Red marker ใส่ตัวเลข 99 จากนั้นมาที่ TAB Expert Features ใส่เครื่องหมายถูกหน้าข้อความ Enable Overburn Disk- at- onc และในช่อง Maximum CD size ใส่เลข 99 ลงไปครับ ที่นี้เรามาลองเขียนแผ่นซีดีดู โดยตัวอย่างนี้ผมจะเลือกไฟล์ขนาด 850 MB มาลองเขียนลงไปบนแผ่นซีดีขนาด 700 MB อย่าลืมเลือกการเขียนแผ่นแบบ Disk-at-once จากนั้นก็ Burn แผ่นได้เลย ระบบจะแจ้งว่า Over Burn Writing ซึ่งก็ไม่ต้องตกใจอะไรเพราะนี่คือการเขียนเกินขอบเขตของระบบ ทำให้คอมพ์มันถามยืนย

New technology computer

วีดีโอจาก http://www.youtube.com/

ลบไฟล์ขยะ หลังจากเลิกเล่นเน็ต ช่วยลดปัญหาไวรัส

รูปภาพ
เวลาเราเข้าเว็บไซต์ต่างๆ โปรแกรม IE ก็จะทำการ download ข้อมูลมาเก็บไว้ในเครื่องของเราก่อน จากนั้นถ้าเราเลิกเล่น ไฟล์เหล่านี้ก็จะค้างในเครื่องของเรา นอกจากปัญหาไฟล์ในเครื่องที่อาจจะเพิ่มมากขึ้น ทำให้เนื้อที่ใน harddisk ของเราไม่เพียงพอแล้ว อาจมีไวรัสแอบแฝงเข้ามาในเครื่องคอมฯ ของเราได้ด้วย ดังนั้นวิธีการจัดการอย่างหนึ่งที่ง่ายก็คือ กำหนดให้โปรแกรม IE ลบไฟล์ขยะเหล่านี้อัตโนม้ติทุกครั้งที่ปิดโปรแกรม สำหรับขั้นตอนก็สั้นๆ ครับ เพียงทำตามรายละเอียดข้างล่างนี้ วิธีกำหนดให้ลบไฟล์ขยะจากอินเตอร์เน็ตแบบอัตโนมัติ 1.คลิกเมนู Tools 2.เลือกคำสั่ง Internet Options 3.คลิกเลือกแท็ป Advanced 4.เลื่อนลงมาที่หัวข้อ Security 5.จากนั้น คลิกหัวข้อ Empty Temporaly Internet Files Folder when browser is closed 6.กดปุ่ม Apply อีกครั้งเพื่อยืนยัน 7.แล้วนี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลเพิ่มเติม:: ส่วนดีของการที่โปรแกรม IE มีการ download ไฟล์มาเก็บไว้ในเครื่องของเรา ทำให้การใช้งานในครั้งต่อไป สามารถเปิดดูรายละเอียดในเว็บนั้นๆได้เร็วขึ้น เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาในการ download ซ้ำอีก อย่างไรก็ตาม ควรเปรียบเทียบผลดี ผลเส

คีย์ลัด

รูปภาพ
- Alt + Tab ใช้สำหรับการเปลี่ยนหน้าต่างของซอฟต์แวร์ ที่เปิดใช้งานอยู่ในขณะนั้น - Ctrl + Esc ใช้สำหรับเรียก Start Menu ขึ้นมาใช้งาน - Alt + F4 ใช้สำหรับปิดหรือออกจากโปรแกรม (Close) ที่เปิดใช้งานอยู่ขณะนั้น - Ctrl + Alt + Del ใช้สำหรับการสั่งบูทเครื่องใหม่ กรณีที่ไม่สามารถสั่งงานต่าง ๆ ได้แล้ว - Print Screen ใช้สำหรับการเก็บภาพหน้าจอขณะนั้นเก็บไว้ โดยจะนำไป past วางในโปรแกรมแต่งภาพได้ - Alt ใช้สำหรับการเรียก เมนูด้านบน โดยจะต้องใช้ปุ่มลูกศร สำหรับการเลือกทำงานควบคู่กันไปด้วย - Esc ใช้สำหรับการยกเลิกการทำงาน หรือออกจากการตั้งค่าต่าง ๆ หรือแทนคำว่า Cancel เป็นส่วนมาก - Enter ใช้สำหรับการยอมรับ หรือแทนการกด OK เป็นส่วนมาก - Space Bar ใช้สำหรับการเลือกบนปุ่มที่มีการ high light ไว้ จะใช้งานคล้าย ๆ กับปุ่ม Enter - Home หรือ Ctrl + Home ใช้สำหรับการเลื่อน Scrool Bar ไปที่ตำแหน่งแรกของหน้าต่างนั้น - End หรือ Ctrl + End ใช้สำหรับการเลื่อน Scroll Bar ไปที่ตำแหน่งท้ายสุดของหน้าต่างนั้น - Shift + ปุ่มลูกศร มักจะใช้แทนการเลือก ช่วงของตัวอักษรหรือข้อความนั้น สำหรับการแก้ไขหรือการ copy - F1 มักจะใช้แทน

รับส่ง Fax ใน Windows XP

รูปภาพ
รับส่ง แฟ๊กซ์ โปรแกรมที่คอยมานาน ก่อนหน้านี้ผมได้มีการแนะนำโปรแกรมรับ-ส่งแฟ๊กซ์ และก็มีสมาชิกหลาย ๆ ท่านเขียนเข้ามาถามเรื่องวิธีการใช้งาน รวมถึงแหล่งที่มีการขายโปรแกรมด้วยความสนใจ มาวันนี้คงเป็นคำตอบที่ดี เพราะทาง Microsoft เอง ได้ผนวกโปรแกรมรับ-ส่ง แฟ๊กซ์ ไว้ภายใน Windows XP แล้ว อย่างน้อยก็ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อหาโปรแกรมมาเสิรม.. หมายเหตุ การรับ-ส่ง แฟ๊กซ์จะต้องมีอุปกรณ์ที่จำเป็นคือ แฟ๊กซ์-โมเด็ม รวมทั้งโทรศัพท์หนึ่งสาย วิธีการใช้งานโปรแกรมรับ-ส่ง แฟ๊กซ์ * เริ่มต้นจะต้องมีการติดตั้งโปรแกรมสักเล็กน้อย โดยคลิกที่ปุ่ม Start เลือก Printers and Faxes * คลิกเลือกไอคอน Fax และทำตามขั้นตอนที่แสดงไว้ * หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว จะมีโปรแกรมเสิรมเข้ามาคือ Fax Console *การรับแฟ๊กซ์ ให้คลิกที่เมนู File เลือก Receive a fax now รอสักครู่ *การส่งแฟ๊กซ์ สามารถส่งผ่านโปรแกรมที่ใช้งานทั่ว ๆ ไป ไม่ว่าจะเป็น MS Word, MS Excel เป็นต้น การส่ง ให้คลิกเลือกเมนู Print คลิกเลือก Fax จากนั้นจะมีเนู Fax Wizard เกิดขึ้น คลิก Next จะได้ดังภาพประกอบดังนี้ - ช่อง To พิมพ์ชื่อผู้รับ ช่อง Fax number ให้ใส่หมา

ยูนิกซ์ป้องกันไวรัสได้อย่างไร ?

คุณสมบัติหนึ่งของไวรัสคือ มันสามารถที่จะแพร่กระจายได้รวดเร็ว เมื่อผู้ใช้โหลดโปรแกรมที่ติดไวรัสขึ้นมาใช้งาน บน DOS หรือ Windows นั้น ไวรัสจะเริ่มทำงาน โดยฝังตัวลงในหน่วยความจำ เนื่องจาก DOS และ Windows อนุญาตให้เรียกใช้ฮาร์ดแวร์ได้โดยตรง เมื่อผู้ใช้เลิกทำงานแล้ว โปรแกรมก็จะถูกปลดจากหน่วยความจำ แต่ไวรัสยังคงฝังตัวอยู่ พอผู้ใช้คนอื่นมาเรียกโปรแกรม ซึ่งอาจเป็นโปรแกรมที่ไม่มีไวรัส ไวรัสก็จะเขียนตัวเองลงบนโปรแกรมใหม่นั้นทันที เนื่องจากยูนิกซ์มีเปลือกเป็นผู้ประสานงาน ขอใช้หน่วยความจำของเครื่องต่อแก่น เมื่อผู้ใช้โหลดโปรแกรม แก่นก็จะจัดสรรที่ให้ใช้ โดยไม่อนุญาตให้ทำอะไรกับส่วนที่ไม่ได้รับมอบหมาย เมื่อโปรแกรมทำงานเสร็จสิ้น แก่นจะปลดโปรแกรมจากหน่วยความจำทันที ในกรณีที่ไม่สามารถปลดได้ ไวรัสก็ไม่อาจระบาดไปกับผู้ใช้คนอื่น เพราะผู้ใช้คนหนึ่งๆ ไม่มีสิทธิ์ไปเขียนทับไฟล์ หรือ ส่วนของหน่วยความจำที่ไม่ใช่ของตนได้ ทำให้ไวรัสไม่สามารถแพร่กระจายได้ คนจึงไม่สร้างไวรัสสำหรับยูนิกซ์ แต่ไปทำสำหรับ Windows ง่ายกว่ากันเยอะ อ้างอิงจากเว็บ http://nanotech.sc.mahidol.ac.th/c/unix/index.htm

การเข้าสู่และออกจากระบบยูนิกซ์

ยูนิกซ์เป็นระบบปฏิบัติการที่ อนุญาตให้มีผู้ใช้พร้อมๆ กันได้หลายคน จึงต้องมีวิธีการป้องกันความเป็นส่วนตัว ของผู้ใช้แต่ละคน โดยผู้ใช้แต่ละคนจะมีพื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ ส่วนตัวไว้ใช้งาน ซึ่งพื้นที่นี้ถูกเรียกว่าไดเรคทอรีบ้าน (home directory) ผู้ใช้มีสิทธิ์ทุกประการ ในการอ่านเขียนบนไดเรคทอรีบ้านของตนอย่างอิสระ ส่วนในไดเรคทอรีบ้านของคนอื่นนั้นอยู่ที่ผู้ใช้คนอื่นจะยินยอมหรือไม่ ผู้ใช้ทุกคนมีสิทธิใช้ทรัพยากรส่วนรวม (public resources) ซึ่งผู้บริหารระบบ (system administration) จะเป็นคนจัดการให้ใครมีสิทธิ์มากกว่าใคร การที่ผู้ใช้มีความเป็นส่วนตัว ผู้ใช้จึงต้องมีรหัสผ่านเพื่อเข้าใช้ระบบของตนเอง ยูนิกซ์มีวิธีการในการเข้าสู่ระบบที่เรียกว่าการล็อกอิน (logging in) โดยจะมีสิ่งที่เรียกว่า login prompt ให้เมื่อจะเข้าสู่ระบบ login : password : ที่ login: เราจะต้องป้อนชื่อ account ของเรา จากนั้นป้อนรหัสผ่าน password ซึ่งจะมองไม่เห็น เมื่อเราล็อกอินเข้าสู่ระบบ เราจะไปอยู่บนสิ่งที่เรียกว่า เปลือก (shell) ซึ่งมีไว้รองรับการทำงานของเรา เราจะไม่สามารถไปทำอะไรกับระบบปฏิบัติการได้โดยตรง ส่วนของระบบที่ทำหน้าที่ติดต่อก